วันนี้ครูแชมป์นึกสนุก อยากจะสร้างสถานการณ์ขึ้นมา อยากรู้ว่าเป็นอะไร ลองติดตามครับ...

เนื่องจากในส่วนงานป้องกันพิบัติภัย ต้องการทดสอบว่า เรื่องที่ได้ซักซ้อม ได้ให้ความเรื่องของภัยพิบัติต่างๆนั้น นักเรียนสามารถใช้ได้หรือไม่ โดยครูแชมป์ต้องการจะทดสอบแบบไม่บอกให้รู้ล่วงหน้า (ถ้ารู้ล่วงหน้า ก็หาข้อผิดพลาดเพื่อแก้ไขไม่ได้สิ)

ครั้งนี้ ได้ความร่วมมือจากศิษย์เก่า (เจ้านัด อรุณบุญสวัสดิ์) เป็นผู้นำเชื้อเพลิงมาให้ แต่เมื่อใกล้ถึงเวลานัดหมาย เจ้านัดดันไม่โพล่หน้ามา เลยต้องรบกวนพี่รัก เป็นผู้ดำเนินการจุดไฟให้

จากนั้น ครูตาก็เปิดสัญญานจำลอง...

...ได้ผลครับ

เด็กอึ้ง แต่ไม่ถึงกับแตกตื่น อาจเป็นเพราะควันที่มียังไม่มากพอ (คราวหน้า หน่วยงานทหารค่ายไหนให้ความอนุเคราะห์ระเบิดควันสักลุก สองลูก ก็ดีเลยนะครับ)

และเมื่อเด็กบางส่วนเริ่มวิ่ง เรื่องที่ครูแชมป์คาดไว้ก็เกิดขึ้น ทั้งๆที่สอนแล้ว บอกแล้ว บอกทุกครั้ง ว่าเวลาวิ่งลงบันไดอย่าเบียดกัน สุดท้ายแล้ว ก็เบียดกัน และึคนที่ไม่ทำตามดันเป็นเด็กโตซะงั้น

ส่วนเด็กชั้นประถม ก็วิ่งกันออกมายังจุดรวมพล ทั้งนี้ด้วยความอนุเคราะห์ของครูแจ๋ว ที่ตะโกนว่า "ไฟไหม้ๆๆๆ" (เค้ามาบอกตอนหลังว่า ลืมไปนะ ที่นัดกันไว้ 13.15 น. ยังคิดว่ารถอะไรมาตามจับคนร้าย พอเห็นพี่รักจุดไฟ เลยนึกได้ว่าซ้อมอพยพ)

ก็สนุกดีครับ เรียนรู้ร่วมกับเด็กๆนี่แหละ มีความสุขดี

ป.ล. เหนื่อยจังเป็นครูเนี่ย  ทำงานให้ทุกกระทรวง ยกเว้นกระทรวงศึกษา ครั้งนี้ก็ทำงานให้ ปภ. 555+ (กัดนิดๆ)

ดินเป็นทรัพยากรธรรมชาติพื้นฐานที่เป็ฯแหล่งทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ...

เช่น แร่ธาตุและถ่านหิน ดินเกิดจากการสลายตัวของหินและแร่ธาตุ รวมกับซากพืชซากสัตว์

และการกระทำจากปัจจัยต่างๆที่รวมกัน อย่างเช่น ความร้อน ความกดดัน แล้วก็น้ำ

ประโยชน์จากดินมีมากมาย คือ ดิน เป็นแหล่งแร่ธาตุ แหล่งอาหาร แหล่งที่อยู่อาศัยของมนุษย์ !!.

กับสิ่งมีชีวิตต่างๆ  ดินก็เป็นสิ่งที่พวกเราใช้กันในชีวิตประจำวัน ดินเป็นแหล่งเกษตรกรรม...  อูตสาหกรรม..

และการประกอบอาชีพของมนุษย์การดำรงชีวิตของมนุษย์ ..พัฒนาการด้านเกษตร..และอุตสาหกรรม! ก็อย่างเช่น คือ การใช้สารเคมี....

...สารกำจัดแมลงวัชพืช การฝังกลบของเสียจากโรงงาน.. จึงทำให้ดินเปื้นสารพิษ ดินเสีย เป็นอันตรายต่อร่างกาย เราเรียก สภาวะนี้ว่า (มลพิษทางดิน)

         ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์  เเบ่งเป็น 13 ทักษะ

        1. การสังเกต  หมายความว่า การให้ประสาทสัมผัส สัมผัสเพื่อหารายละเอียดกับสิ่งที่

ต้องการศึกษา ได้เเก่ ตา ห จมก ลิ้น ผิวกาย

        2. การวัด หมายความว่า การเลือกเครื่องมือ ในการวัดหาปริมาณในสิ่งต่างๆ ออกมา

เป็นตัวเลก ที่เเน่นอนได้อย่างเหมาะสมกับสิ่งที่วัด

        3. การจำเเนกประเภท หมายความว่า การเเบงพวก หรือประเภทสิ่งที่ศึกษา

โดยจะมีเกณฑ์ในการจำเเนก

       4. การหาความสัมพันธ์ระหว่างสเปซกับสเปซเเละสเปซกับเวลา

       5. การเเสดงตัวเลก หมายความว่า การนับจำนวนเเละการนำจำนวนที่ได้มา มาคิด

คำนวน ในการหาค่าเฉลี่ย

       6. การจัดกระทำเเละการการสื่อความหมาย หมายความว่า การนำสิ่งที่ได้มาจากการ

สังเกต การวัด การทดลองมาจัดทำใหม่

       7. การลงความเห็น หมายความว่า การเพิ่มความคิดเห็น โดยอาศัยประสบการณ์

เดิม

       8. การพยากรณ์ หมายความว่า การคาดคะเนคำตอบล่วงหน้า

       9. การตั้งสมมติฐาน หมายความว่า การคิดคำตอบล่วงหน้า ก่อนจะลงมือทดลอง

      10. การกำหนดนิยามปฏิบัติการ หมายความว่า การกำหนดความหมาย

      11. การกำหนดเเละควบคมตัวเเปร 

      12. การทดลอง มี 3 ตอนคือ

           1. การออกเเบบการทดลอง

           2. การปฏิบัติการทดลอง

           3. การปันทึกผลการทดลอง

       13. กางตีความหมายเเละการสรป

 กลุ่มดาวที่มีประโยชน์เพื่อหาทิศนอกเหนือจากที่กล่าวมาแล้วคือกลุ่มดาวจักรราศ๊

ซื๋งนอกจากใช้หาทิศแล้วยังมีประโยชน์ในการหาดาวเคราะอีกด้วยกล่มดาวจักรราศีประกอบ

ด้วยกล่มดาว   12   กลุ่ม   ได้แก่   กลุ่มดาวหมี    ( ปลา )   เมฆ    (  แกะ )  พฦษภ  วัว 

มิถุน   (  คนคู๋  )   กรกฎ  ( ปู  )  สิงห์   (สิงห์โต)   กันย์  (หญิงพรหมจารีย์)  ตุล   (คันชั่ง)  พฤศจิก  (แมงป่อง)  ธนู  (คนยิงธนู)   มกร  (แพะทะเล)และกุมถ์  (คนแบกหม้อนำ)