เมื่อสองเดือนก่อน หนังสือพิมพ์หัวสีหลายฉบับได้พาดหัวถึงพระชื่อดัง ทีไ่ด้สวมแว่นดำขณะโดยสารเครื่องบินเจ็ต และกลายเป็นประเด็นสังคมในเวลาต่อมา

หลายสำนักข่าวให้ความสนใจ โดยเฉพาะรายการข่าวเช้าที่ให้ความสำคัญมากๆ (จนมีคนบอกว่า ข่าวเช้า ข่าวเย็น 80% เป็นข่าวของพระรูปนั้น) มีการติดตามตรวจสอบจากหน่วยงานต่างๆถึงเรื่องของความผิดปกติ หรือข้อสงสัยต่างๆ จนบางคนรู้สึก "เบื่อ"

วันนี้ ผมได้ไปเสวนากับพวกพี่ๆ พอมาถึงหัวข้อที่มีคนแสดงความเห็นในคลิป youtube ของหลวงปู่แขก ปภาโส ในครั้งที่ท่านปลุกเสกอธิษฐานจิต ร่างของท่านสั่นโยก (ดูคลิปดังกล่าวได้ที่ http://www.youtube.com/watch?v=jAyVMChIgYI ) พี่ที่ผมเคารพท่านหนึ่งได้พูดคุยถึงประเด็นนี้ เค้าบอกว่ามีคนเอาคลิปวิดีโอหลวงปู่ลง แล้วมีคนมาโพสต์ด่าว่า ด้วยถ้อยคำที่ค่อนข้างรุนแรง (ประมาณว่า "เป็นพระประสาอะไรทำไมใส่แว่นดำ ผมไม่นับถือ แบบนี้ไม่ใช่พระ")

พี่ท่านนั้นก็ตอบไปในคอมเมนท์ว่า "สาเหตุที่หลวงปู่แขกต้องสวมแว่นตาเวลาท่านไปข้างนอก หรือไปร่วมพิธีปลุกเสกต่างๆ ตาของท่านแพ้แสง จึงจำเป็นต้องสวมแว่นตากันแสงเพื่อที่จะให้สามารถพอมองเห็นได้"

...หลังจากนั้นไม่นาน ผู้ชายคนนั้นได้มาโพสต์ว่า "ผมขอโทษครับ ต้องกราบขอขมาหลวงปู่ด้วย"

เรื่องนี้ผมยืนยันได้ว่าดวงตาของหลวงปู่มีปัญหา เพราะตอนที่ผมไปนิมนต์หลวงปู่เพื่อมาพิธีในงานทำบุญสถาบันวิจัย มหาวิทยาลัชภัฏพิบูลสงคราม (งานมีวันที่ 4 มีนาคม 2555 ซึ่งผมไปนิมนต์ท่านก่อนหน้านั้นประมาณ 1 สัปดาห์ ดูภาพงานทำบุญได้ที่ http://seal2thai.blogspot.com/2012/03/blog-post.html ครับ) ขณะนั้น หลวงปู่ได้เดินตรวจตราภายในบริเวณวัด ซึ่งท่านเพิ่งกลับมาจากงานที่สุโขทัย ผมดีใจมาก รีบไปนั่งยองๆข้างๆหลวงปู่เพื่อกราบนิมนต์ ผมเห็นดวงตาของหลวงปู่เริ่มมีต้อ ซึ่งเกิดขึ้นตามอายุที่มากขึ้น

เรื่องนี้เตือนสติได้ดีมาก ว่าก่อนที่เราจะแสดงความคิดเห็นอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะทางวาจา ทางสื่อเว็บไซต์ ทางสังคมออนไลน์ต่างๆ ต้องมีสติ ไม่ควรแสดงความคิดเห็นสุดโต่ง หรือแสดงด้วยถ้อยคำที่รุนแรง เพราะเมื่อความจริงปรากฎ ต่อให้มาขอโทษ มันก็ไม่เหมือนเดิม มันก็เหมือนกับตะปูที่ถูกตอกเอาไว้ เมื่อถอนตะปูออก มันก็มีร่องรอยทิ้งไว้อยู่

ผมเองก็เคยเจอ ในคลิปต่างที่ผมเผยแพร่ไป นั่นเพราะผมศรัทธา ผมได้พบเห็น ได้รับเมตตาจากพ่อแม่ครูอาจารย์ หลวงปู่ หลวงตาทั้งหลาย แต่การนำเสนออาจจะไม่ได้ทั้งหมด คุณจึงได้เห็นเพียงบางส่วนบางตอน แต่การที่คุณมาแสดงความเห็น กล่าวอ้างถึงพระไตรปิฎก เขียนถ้อยคำแสดงภูมิรู้ราวกับเป็นเปรียญ 9 นักธรรมเอก แล้วลงท้ายว่า "ผมไม่ศรัทธาพวกนี้ ผมศรัทธาในพระธรรมของพระพุทธเจ้าเท่านั้น"

ผมเองโชคดีที่ได้ใกล้ชิดหลวงปู่ และท่านก็ได้สอนหลักธรรมให้ ถ้ามองเป็นกุศโลบายว่า ท่านใช้เีรื่องของพิธีกรรมมาทำให้คนได้ศึกษาธรรมะ รักษาความดี รักษาศีล ทำสมาธิ มันก็เป็นเรื่องดีมิใช่หรือ ครูยังต้องสอนนักเรียนที่มีความแตกต่างด้วยวิธีที่แตกต่าง ลอง search หาคำว่า "วิธีสอน" ดูสิครับ ว่ามีมากน้อยเท่าไร หลวงปู่ หลวงพ่อก็เช่นกัน หากศึกาากันลึกๆแล้ว ก็จะได้ธรรมะกลับมา (ลองดูที่ http://www.seal2thai.org/sara/sara259.htm ครับ)

ผมก็อนุโมทนากับคุณคนนั้นที่ยึดมั่นในพระธรรม แต่ผมสงสัย ในเมื่อคุณไม่ชอบ คุณจะเข้ามาดูทำไม คุณอาจจะบอกว่า แล้วไม่อยากให้ดูแล้วเอาขึ้นทำไม ก็อยากลองให้นึกดูครับ บ้านเมืองเรามีร้านสะดวกซื้อมากมาย ทุกคนมีสิทธิที่จะเข้าร้านหรือไม่ก็ได้ บางคนเข้าไปซื้อของ บางคนเข้าไปอ่านหนังสือ ไปรับแอร์เย็นๆ แต่ไม่เห็นมีเจ้าของร้านโชว์ห่วย (ซึ่งก็คงไม่ชอบร้านสะดวกซื้อเพราะเป็นคู่แข่ง) ไปยืนด่าพนักงานในร้านว่า ร้านสะดวงซื้อทำลายระบบการค้า ผูกขาดการตลาด ฯลฯ สรุปง่ายๆว่า ไม่ชอบก็ไม่ต้องเข้าไม่ต้องซื้อ และก็ไม่ต้องไปด่า

บ้านเมืองเราเป็นประชาธิปไตย แม้เราจะถูกตรวจสอบ ถูกแบนละครไปบ้าง แต่การแสดงความคิดเห็นยังคงเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ แต่ก็ไม่ควรหยาบคาย รุนแรง หลายคนเวลาอยู่ที่โรงเรียน อยู่ที่มหาวิทยาลัยเป็นเด็กเรียน เรียบร้อย แต่เมื่อก้าวไปสู่สังคมออนไลน์ ไอ้เจ้าคนนั้นโครตเกรียนเลย ทำใช้คำพูดหยาบคาย ท้าตีท้าต่อย เหมือนคนเก็บกด มีปัญหาทางบ้าน โดนเพื่อนรังแก โดนแฟนหลอกใช้ แสดงออกอย่างสุดๆไปเลย

เอาเป็นว่า ต่อไปนี้ หากจะแสดงความคิดเห็นอะไร ควรระวังให้มากๆ มีสติให้มากๆ เพราะถ้าคนที่ได้รับผลกระทบเค้าเอาเรื่องขึ้นมา มันจะผิดทั้ง พรบ.คอมพิวเตอร์ ผิดทั้งหมิ่นประมาทความการโฆษณา ฟ้องเรียกค่าเสียหายถึงกับขายบ้าน ขายรถ ได้เลยนะครับนั่น

มาร่วมกันแสดงความเห็นอย่างระมัดระวังกันนะครับ ไม่มีใครชอบหรอก ที่มีคนมาตะโกนคุยกับเรา ใช่ไหมครับ

แหม เริ่มจากพระสวมแว่นดำ วกมาสู่มารยาททางสังคม(ออนไลน์) จนได้เนาะ คุณครู!!!!

09/10/56

ครูแชมป์