
รายงานสถานการณ์เพลิงไหม้โรงเรียนวัดยางแขวนอู่
จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทาง สพป.พิษณุโลก เขต 1 ได้กำชับให้ทำรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งให้ทาง สพป. พิษณุโลกเขต 1 รับทราบ จึงขอทำรายงานเบื้องต้นเพื่อนำเสนอต่อผู้บังคับบัญชาดังนี้ครับ
รายงานเหตุการณ์อัคคีภัย โรงเรียนวัดยางแขวนอู่ วันที่ 30 มิถุนายน 2557 เวลา 12.10 น.
เมื่อวันจันทร์ ที่ 30 มิถุนายน 2557 เวลา 12.10 น. ในขณะที่ข้าพเจ้า นายพิริยะ ตระกูลสว่าง กำลังจัดทำเอกสารเพื่อจัดเตรียมใช้ในการประชุมเวลา 13.00 น. อยู่นั้น ได้เกิดเหตุไฟดับและมีเด็กนักเรียนวิ่งมาแจ้ง ข้าพเจ้าว่า ได้มีเหตุไฟไหม้ที่ห้องการเงิน – พัสดุ ของโรงเรียน
ข้าพเจ้า ได้เดินออกจากห้องเพื่อไปดูเหตุการณ์ พบว่า มีนักเรียนอพยพมายังจุดรวมพล และมีการดำเนินการตามแผนที่ได้ซักซ้อมไว้ก่อนหน้านี้ และเมื่อแจ้งไปยังผู้บังคับบัญชาขั้นต้น ผอ.ธรรมนูญ สายทอง ได้มาเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ (บก.เหตุการณ์) ตามขั้นตอน และทาง บก.เหตุการณ์ได้ให้ครูคนึงนิจ ตันกาศ โทรแจ้งเหตุฉุกเฉิน
ข้าพเจ้าได้ให้ชุดควบคุมสถานการณ์ โดยมีครูถิรมาส ธเนศจินดารัตน์ เป็นผู้ควบคุม ดำเนินการรวมนักเรียน ณ จุดรวมพล ตรวจนับยอด และอพยพไปยังจุดที่ปลอดภัย และมีครูสว่าง ด้วงบ้านยาง ครูนรัตน์ สิงห์คง ครูณัฐมน จันทร เป็นชุดสนับสนุน หากเกิดเหตุร้ายแรง
เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุ พบว่า ครูศุภษร แจ่มอยู่ และครูธัญญลักษณ์ สนธิ์ศิริ ได้ระวังเหตุในเบื้องต้นไว้แล้ว จุดเกิดเหตุเป็นสะพานไฟที่ต่อออกมาจากสายไฟหลักของหมู่บ้าน มีเปลวไฟและควันขึ้นมา ข้าพเจ้าจึงนำชุดเผชิญเหตุเข้าเผชิญเหตุการณ์ และสั่งห้ามไม่ให้ใช้น้ำในการดับเพลิง เพราะจุดที่ไหม้เป็นสายไฟฟ้า จึงให้นำถังดับเพลิงถังที่สองส่งต่อให้ครูศุภษรทำการฉีดพ้นสารเคมีเพื่อระงับเหตุ เมื่อทำการฉีดพ้นแล้ว เปลวไฟได้ดับลงในครั้งแรก ครูศุภษรได้รีบลงไปล้างตาเนื่องจากผงเคมีกระจายเข้าตา
ในขณะที่ข้าพเจ้ากำลังเก็บภาพความเสียหายอยู่นั้น นักเรียนที่เป็นชุดเผชิญเหตุได้ตะโกนว่า ยังไม่ดับสนิท ไฟยังลุกขึ้นมาอยู่ ข้าพเจ้าได้บอกให้เด็กชายเกรียงไกร บุญเกลี้ยง เด็กชายก้องหล้า สิงห์แรง เด็กชายสมชาย ตรีอินทอง เด็กชายณัฐพงศ์ เพิ่มกาวี เด็กชายธนายุทธ สุพรรณพงษ์ และเด็กชายชุตินันท์ ทองดอนง้าว เข้าย้ายสิ่งที่อาจลุกติดไฟได้เพิ่มเติม และให้ฉีดเคมีผงเข้าสู่จุดที่ไฟยังลุกอยู่ จากนั้น ข้าพเจ้ากับชุดเผชิญเหตุ ได้วิ่งเข้า-ออกห้องเพื่อเขี่ย และลากย้ายสิ่งของ เพราะผงเคมีได้กระจายไปทั่วห้องและมีอาการแสบตา หายใจไม่สะดวก จนกระทั่งไม่มีวัสดุที่สามารถเป็นเชื้อเพลิงได้อีก
จากนั้น ได้ทำการระวังป้องกัน และเคลื่อนย้ายพัสดุ ครุภัณฑ์ที่อาจได้รับความเสียหาย หากไปยังลุกไหม้ขึ้นในครั้งที่ 3 และอาจมีความจำเป็นต้องใช้น้ำในการดับ
เวลาผ่านไปประมาณ 10 นาที เจ้าหน้าที่ของเทศบาลตำบลบางระกำเมืองใหม่ ได้ส่งกำลังเพื่อควบคุมสถานการณ์ โดยมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิง เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย และกองช่าง มาตรวจสอบพื้นที่ที่เกิดเหตุ และดำเนินการรื้อสายไฟ ตัดต่อให้ใช้งานได้ชั่วคราว
จากนั้นอีก 1 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และสื่อมวลชน ได้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และทำบันทึกประจำวันตามขั้นตอน
จากนั้นอีก 20 นาที ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 นำโดยท่านรองฯอโณทัย ไทยวรรณศรี และคณะ เข้าตรวจเยี่ยมและสอบถามเบื้องต้น
ผลของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สิ่งที่เสียหายมีดังนี้
1. สายไฟบริเวณสะพานไฟของโรงเรียน อาคาร อพล.301 ไหม้เสียหาย
2. บริเวณเสา และผนังของตึก มีรอยไหม้เล็กน้อย
3. จอของฉากรับเครื่องฉาย (จอโปรเจคเตอร์) ได้รับความเสียหายเล็กน้อยบริเวณขอบ
4. ขารองลำโพง เสียหายเล็กน้อย 1 ชิ้น
5. กล่องพลาสติกบรรจุลูกเปตอง เสียหายเล็กน้อย 2 ชิ้น
สาเหตุของเหตุการณ์ ทางผู้บัญชาการเหตุการณ์คาดว่า น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากในช่วงก่อนเกิดเหตุ มีเหตุไฟตกเพราะแรงดันผิดปกติ และไฟดับทั้งโรงเรียนในเวลาต่อมา













- พิษณุโลก-ฮีไร่เด็กช่วยดับไฟไหม้โรงเรียน (ครอบครัวข่าวสาม)
- เด็ก ม.2 ฮีโร่! ดับเพลิงไหม้อาคารเรียน (sanook news)
- เยี่ยม! เด็ก ม.2 บางระกำตั้งสติได้-ช่วยดับไฟไหม้โรงเรียนก่อนวอดทั้งหลัง (ผู้จัดการ)
- ฮีโร่ม.2ช่วยดับไฟไหม้ในโรงเรียน (พิษณุโลกฮอตนิวส์)
- สพป.พล.1 ออกตรวจเยี่ยมร.ร.ถูกเพลิงไหม้ (เว็บ สพป.พิษณุโลก เขต 1)
ขอบคุณครับ
-ข้อมูลโดยครูแชมป์ ซึ่งสนับสนุนข้อมูลโดย เรียนพิเศษในพิษณุโลก และ แฟ้มสะสมผลงานครู สามารถติดตามข้อมูลต่างๆได้ครับ