ลงทุนวัยเก๋า
ข้อมูลจากพี่ตู่ วรวรรณ ธาราภูมิครับ
วศิน วณิชย์วรนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บลจ.กสิกรไทย แนะนำ วัยเก๋า ให้หลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้นเพียงอย่างเดียว เพราะตามสถิติการลงทุนในหุ้น 100% ปีที่ราคาลงแรงๆ ไปถึง 25% ซึ่งจะต้องถือหุ้นนั้นต่อไปอีก 5 ปี ราคาจะกลับมาที่เดิม
กรณีเติมตราสารหนี้เข้าไป 50% และมีหุ้นอยู่ 50% ในปีที่หุ้นลงแรงจะลดลงเพียง 6% และใช้เวลาแค่ 2 ปี ในการตีกลับมายืนอยู่จุดเดิม
ถ้าลงทุนในหุ้น 30% ที่เหลือเป็นตราสารการเงินอื่นๆ ปีที่หุ้นลงแรงๆ จะลงไม่มาก และใช้เวลาในการตีกลับมายืนอยู่จุดเดิมแค่ปีกว่าๆ เท่านั้น
จากสถิติได้คำตอบว่า ควรจะเป็นการลงทุนแบบผสมตราสารหนี้และตราสารทุนหรือหุ้น เพราะจะทำให้ได้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ
กองทุนผสม มี 2 แบบ คือ กองทุนบาลานซ์ จะมีการจัดสัดส่วนการลงทุน แล้วรักษาสัดส่วนนั้นไว้ ผลตอบแทนอาจจะมีการเหวี่ยงไปมา แต่ไม่เหวี่ยงมากเท่ากับกองทุนหุ้นอย่างเดียว
กองทุนรวมทาร์เก็ตรีเทิร์น ที่มีการวางเป้าหมายของผลตอบแทนที่แน่นอน เมื่อได้ผลตอบแทนตามที่วางไว้ ก็ยกเลิกกองทุน ซึ่งความเสี่ยงไม่มาก
หากจะซื้อกองทุนรวม ไม่จำเป็นต้องซื้อกับ บลจ.เดียว เพราะแต่ละแห่งจะมีสไตล์การบริหารที่แตกต่างกัน แต่ไม่ควรมีมากเกินไป แนะนำให้ควรมี 2-3 กองทุน จาก 2 บลจ. หรือ 1 บลจ. หากอยากได้ผลผลิตเยอะๆ ต้องไปที่กองทุนหุ้น
การลงทุนในกองทุนรวมหุ้น เหมือนการปลูกต้นไม้ ซึ่งอาจมีบางช่วงที่ยังไม่ให้ผลผลิต ใบอาจร่วง อย่าเพิ่งไปตัดต้นไม้ทิ้ง เพราะหลังจากใบร่วง ใบใหม่จะเริ่มงอกแล้วค่อยๆ เติบโต แต่คนพอเห็นความผันผวน หรือใบไม้ร่วง ก็เริ่มกลัวรีบตัดต้นไม้
ในช่วงที่หุ้นเริ่มดี และขึ้นมามาก ควรจะขายออกไปบ้าง เพื่อรักษาสัดส่วนการลงทุนให้เป็นไปตามที่วางแผนไว้ตั้งแต่ต้น อย่าให้ความโลภและความหิวเข้ามาครอบงำ
.
(วศิน วณิชย์วรนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บลจ.กสิกรไทย บรรยายในงาน “วางแผนการลงทุน เพื่อชีวิตดี๊ดีวัยเกษียณสุข” จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สรุปโดย วารุณี อินวันนา โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2561)