“คำถามที่คุณต้องเป็นคนตอบ”
“คำถามที่คุณต้องเป็นคนตอบ”
.
สวัสดีครับ ขอทักทายในวันที่เป็นสีแดงๆ อาจมีเขียวบ้างเล็กน้อยถึงปานกลาง มีเหลืองบ้างเป็นหย่อมๆ 555
.
เช่นเคยครับ ข้อเขียนนี้ไม่ใช่บทความทางวิชาการ ไม่มีงานวิจัยรองรับ และเป็นเพียงการบอกเล่าประสบการณ์อันน้อยนิดเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครับ โดยเขียนขึ้นเองไม่ได้ืนำมาจากที่ไหน (สามารถตรวจสอบได้โดยการนำข้อความท่อนใดท่อนหนึ่งไปค้นหาใน google) ทั้งนี้เพราะกลัวผิด พรบ.คอมพ์ และโดนฟ้องหาว่าไปหยิบหวยเขามา 30 ล้าน … เอ๊ะ คนละเรื่องละ 555
.
หลายท่านอาจกำลังตั้งคำถามว่า เกิดอะไรขึ้นกับตลาดหุ้นซึ่งมีผลต่อกองทุนรวมของเรา หลายเดือนก่อนเขียวทำไมตอนนี้แด๊งงงง แดง อยากเรียนตามประสบการณ์ครับว่า ผมก็ผ่านจุดนี้มาแล้ว ช่วงนั้นเล่นเอาเครียดเลยเพราะเริ่มต้นครั้งแรก แต่พอผ่านจุดนี้ไปได้ หัวใจคุณจะแกร่งขึ้น ไม่หวั่นไหวต่อการผันแปรมากนัก
.
ทว่า กว่าจะถึงวันนั้นคุณอาจต้อง “เรียนรู้” และ “ยอมรับ” จะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้ เพราะจะทำให้คุณขาด “ภูมิคุ้มกัน”
.
คุณมีสิทธิ์ที่จะสงสัย มีสิทธิ์ที่จะตั้งคำถาม และ…มีสิทธิ์ที่จะใช้วิจารณญานในการเชื่อข้อมูลจากใครก็ตามที่บอกคุณ เพราะสิ่งที่คุณจะตัดสินใจคือทรัพย์สินของคุณเอง คนอื่นไม่ได้กำไรหรือขาดทุนไปพร้อมกับคุณด้วย (เงินของเรา เขาไม่รับรู้) แม้กระทั้งมาร์เก็ตติง หรือโบรคเกอร์ที่เขาเชียร์ให้ซื้อขาย สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่มีวันพูดว่า “ซื้อเถอะพี่ เชื่อหนู มันต้องขึ้นแน่ๆ” เพราะทุกการสนทนาของเขากับลูกค้าจะถูกบันทึุกเสียงไว้ เขามีเพียงให้ข้อมูลว่า
- แนวโน้มจะเป็นอย่างไร
- มีข่าวอะไรบ้าง
- มีสัญญานกราฟอย่างไรบ้าง
- แนวรับ แนวต้าน อยู่ที่เท่าไร
- อื่นๆที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์อันไม่ผิดต่อกฎหมายข้อบังคับ
.
…ดั้งนั้น ทุกครั้งที่มีใครมาให้ข้อมูล ผมจะรับฟังและบันทึกส่วนสำคัญไว้ จากนั้นกลับมาหาคำตอบ 2 ข้อ ว่า
1. คุณรู้ได้อย่างไร
2. คุณมีไลเซนต์ผู้แนะนำการลงทุนไหม
.
ข้อ 1 ไม่มีใครรู้ว่าหุ้นจะขึ้นหรือลง กองทุนจะขึ้นหรือลงอย่างแน่นอน มีเพียงผู้ที่หาข้อมูลอย่างหนัก ใช้เวลาสืบค้นข้อมูล และนำมาคิดวิเคราะห์ไตร่ตรองใช้โยนิโสมนสิการ ใช้หลักกาลามสูตร เพราะเป็นสิ่งที่เราได้เรียนมาตั้งแต่ประถมในวิชาวิทยาศาสตร์แล้ว เหมือนคำถามง่ายๆว่า เรารู้ได้อย่างไรว่าอากาศมีน้ำหนัก จะไม่มีนักเรียนคนไหนตอบว่า “เพราะครูบอก” ถ้ามีนักเรียนเขียนตอบแบบนี้ คุณจะให้กี่คะแนน
.
ข้อ 2 คนที่จะแนะนำการลงทุนได้มีการกำหนดไว้ว่าจะต้องมี Investment Consultant (IC) License ดังนั้น ถ้ามีใครบอกว่าหุ้นตัวนี้ซื้อเลย กองทุนนี้ซื้อเลย คุณควรซื้อแบบปันผล คุณควรซื้อแบบไม่ปันผล อันนี้เข้าข่ายเสี่ยงนิดๆ (ศึกษาเพิ่ม https://www.set.or.th/set/professional/html.do?name=professional_ic&innerMenuId=30) จึงมีการเลี่ยงคำตอบไปว่า “ถ้าเป็นผม…” “ผมเคย…” “ผมคิดว่า…” ซึ่งพบเห็นได้ในเว็บบอร์ดชื่อดังของประเทศไทย บางท่านเลี่ยงการเชียร์ด้วยการตั้งคำถามว่า “หุ้น BNK88 ดีไหมครับ ทำกิจการอะไร วันนี้ผมซื้อไปแล้วไม้นึง” คนอ่านก็จะเข้าไปหาข้อมูลหุ้นตัวนั้น เมื่อเกิดกระแสก็มีมีเม่าตัวใหม่จนสูติบัตรทันที
.
ยาวอีกแล้ว….
.
เอาเป็นว่า ตอนนั้นที่เริ่มลงทุนตลาดจากที่เขียวๆมันก็แดงแบบนี้แหละครับ ผมมีตัวเลือกตอนนั้น 2 อย่างคือ 1. ถือต่อแต่ยังไม่เพิ่มรอดูสถานการณ์ 2. ขายขาดทุน ผมเลือกข้อ 1 เพราะในเมื่อเราอยากรู้เราจะยอมแพ้อะไรง่ายไม่ได้ ซึ่งในเวลาต่อมาก็ขอบคุณตัวเองที่สมัครเปิดบัญชีหุ้นไว้ เพราะได้อ่านบทวิเคราะห์ อ่านข่าว ทำให้เข้าใจในสถานการณ์ ยิ่งมาตอนหลังๆ โบรคฯมีการพัฒนาเครื่องมือออกมา บางโบรคสามารถดูได้เลยว่าหุ้น BNK88 กองทุนไหนถือบ้าง …จัดว่าเด็ด
.
ที่ผมมาเขียนในนี้เพราะผมเชื่อว่า มีหลายท่านส่งข้อความไปถามท่านผู้รู้ใน inbox ซึ่งก็อย่างที่บอกครับ รับข้อมูลและคิด 2 ข้อ แล้วนำมาทำการบ้านให้มากๆ เพราะไม่มีการแนะนำการลงทุนใดกล้ารับประกันฟันธงว่ามันดี มันจะขึ้นหรือจะลง เทียบกับฟันธงว่าใครเป็นเจ้าของหวย 30 ล้านยังง่ายกว่า
(เรื่องของเรื่องมีเด็กคนหนึ่งถูกโกงแชร์ เขาลงทุนโดยที่ไม่เคยเห็นหน้าตาคนๆนั้นเลย นี่คือความเสี่ยงที่ขาดความรู้)
.
….ขอบคุณที่ทุกท่านเสียสละเวลาอ่านมาถึงบรรทัดนี้ หากข้อความใดผิดพลาดประการใด ครูบ้านนอกคนนี้ขอกราบขออภัยมา ณ ที่นี้จากใจจริงครับ
.
ป.ล. เศรษกิจบ้านเรากำลังแย่หรือเปล่า ให้ลองดูว่าถึงกับต้องเข้าป่าไปล่าเสือดำมากินกันเลยทีเดียว แฮร่!!!!