ทำไมลงทุนแล้วล้มเหลว
ทำไมลงทุนแล้วล้มเหลว
—————————–
เคยสงสัยไหมว่าทำไมนักลงทุนที่เก่ง มีความรู้ เข้าใจในเรื่องการลงทุนเป็นอย่างดี กลับลงทุนแล้วล้มเหลว
นั่นเป็นเพราะเขาไม่ได้ตัดสินใจลงทุนตามหลักการหรือข้อมูลที่เขามีอยู่
ในโลกของการลงทุน ความจริงกับทฤษฎีที่ร่ำเรียนมามันไปกันคนละทิศละทาง กล่าวคือนักลงทุนที่มีพื้นฐานความรู้ดี กลับไม่ได้ใช้เหตุและผลในการตัดสินใจลงทุน
.
ตัวอย่างที่ 1 : ผมไม่ผิด
——————————
หลังจากรับรู้ว่าตนเองผิดพลาด นักลงทุนมักหลีกเลี่ยงความเสียใจว่าตนเองได้ลงทุนผิดไปแล้ว คือรู้ทั้งรู้ว่าพลาดแล้วแต่ไม่ขายทิ้ง เพราะไม่สามารถยอมรับได้ว่าตนเองลงทุนผิด ทั้งที่เมื่อพลาดแล้วควรดูปัจจัยพื้นฐานของหุ้นตัวนั้นๆ ว่าควรจะถือต่อหรือไม่ จนเกิดเป็นประโยคยอดฮิตว่า ไม่ขายไม่ขาดทุน … (กอดหุ้นจนตัวตาย)
.
ตัวอย่างที่ 2 : ตื่นตูมกับข่าวร้าย และเพิกเฉยกับข่าวดี
——————————————————————
นักลงทุนจำนวนมากมักจะตกใจจนขายหุ้นมากเกินควรเวลามีข่าวร้าย โดยลืมนึกถึงปัจจัยพื้นฐานของหุ้นตัวนั้นๆ และเวลามีข่าวดีก็ซื้อหุ้นน้อยเกินควร
เรื่องแบบนี้ส่วนหนึ่งมีผลจากสื่อต่างๆ และเนื้อข่าวที่มีอารมณ์และความคิดเห็นผสม มีการพาดหัวข่าวคึกโครมเกินจริง โดยเฉพาะเวลามีข่าวร้ายที่ถูกมองว่าขายได้มากกว่าข่าวดี
ปัญหาจากความผิดพลาดเชิงพฤติกรรม แก้ไขได้โดยการสร้างวินัยการลงทุนที่มองเป้าหมายระยะยาว ให้สอดคล้องกับการวางแผนการเงิน แล้วลงทุนอย่างสม่ำเสมอ นี่จะช่วยทำให้นักลงทุนผ่านพ้นอารมณ์เหล่านี้ไปได้จนประสบผลสำเร็จในการลงทุน
.
ข่าวร้ายคือบ้านเรายังมีนักลงทุนจำนวนไม่น้อยที่ขาดความรู้ความเข้าใจ เล็งเห็นผลเลิศแต่เรื่องลงทุนฉาบฉวยหวังกำไรเร็วๆ ในระยะสั้น ซึ่งปีนี้คงเซ็งสนิทกับตลาดหุ้นไทยที่ไวอะกร้าไม่แรงพอ
เรียกว่าจะจุดธูปเซ่นไหว้บรรพชนยังไงๆ หุ้นก็ขึ้นนิด ลงหน่อย จนหาช่องเก็งกำไรไม่คุ้มค่าคอมโบรกฯ
นอกจากนี้ ยังมีนักลงทุนจำนวนหนึ่งซึ่งมีพื้นฐานความรู้ดีแต่กลับตกเป็นทาสอารมณ์ ลืมใช้เหตุผลในการลงทุน
แต่ข่าวดีก็ยังมี เพราะมีนักลงทุนไม่น้อย และเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ที่รู้จักลงทุนระยะยาวด้วยการทำความเข้าใจกับสิ่งที่ตนเองลงทุน รู้จักคิดว่าปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจและกิจการนั้นๆ จะเป็นอย่างไรในอนาคต แล้วลงทุนโดยสม่ำเสมอทุกๆ เดือน แถมยังหัวถึงหมอนนอนหลับสบายได้อีกด้วย เพราะไม่ต้องมากังวลไล่ตามดูราคาหุ้นเป็นรายวินาที
คนกลุ่มนี้จะเป็นผู้ชนะเข้าเส้นชัยได้ในการวิ่งมาราธอน และการลงทุนที่จะประสบผลสำเร็จคือการคงอยู่ได้ในการลู่วิ่งตลอดเส้นทาง ไม่ใช่แป๊บเดียวรู้ผลด้วยการวิ่ง 100 เมตร
.
คนที่เบื่อๆ กับอาการตลาดหุ้นไทยตายด้านในปีนี้ อย่าเพิ่งถอดใจ หุ้นปันผลดีๆ ที่แม้เศรษฐกิจจะยังไม่ “โตกระจาย” ไปในภาคส่วนต่างๆ แต่คนก็ยังต้องใช้งาน ต้องบริโภคของของเขา มันยังมี … อย่าไปสนใจกำไรขาดทุนจากราคาหุ้น ให้มองที่ปันผลที่จะได้รับสม่ำเสมอในภาวะอย่างนี้ดีกว่า
ว่าไปแล้วหุ้นไทยก็ไม่ได้ไร้เสน่ห์ขนาดนั้น หลายคนที่มีเงินสดในมือเยอะเขาบอกว่ากำลังนั่งแช่งให้หุ้นตกมากๆ จะได้เข้าซื้อในราคาถูก และหลายคนก็กังวลว่าเศรษฐกิจเราแม้ตัวเลขจะกระเตื้องแล้ว แต่ชาวบ้านร้านตลาดรวมทั้ง SME กำลังแย่ อาการสาหัส
แล้วจะเอาไงดี
เรื่องอย่างนี้ ถ้าลงทุนระยะยาวด้วยเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์แล้ว อย่างน้อยโครงการเมกะโปรเจคด้านคมนาคมของรัฐบาลก็น่าจะทำให้ประเทศเราเฟื่องฟูในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าได้ เหมือนมีคนปลูกต้นไม้ในวันนี้ เพื่อให้ได้ร่มเงาในอนาคตไปอีกนาน
การทยอยลงทุนกับกระจายการลงทุนในหุ้น ตราสารหนี้ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยคำนึงถึงเมกกะเทรนด์ที่เกิดขึ้น แล้วลงทุนในภาคส่วนที่จะได้ประโยชน์จากเมกกะเทรนด์ หลีกเลี่ยงภาคส่วนที่ได้รับผลลบ จึงน่าจะได้ผลดีในระยะยาวอย่างเป็นกอบเป็นกำมากกว่าการ่วิ่งเข้าวิ่งออกในตลาดหุ้น โดยเฉพาะยามนี้ที่โอกาสทำกำไรเร็วๆ มันยาก
.
เรื่องนี้พูดตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีก่อน ว่าหุ้นไทยปี 2560 จะน่าเบื่อสุดๆ เหมือนกินแกงจืดเต้าหู้หมูสับทุกมื้อทุกวัน
ขอให้โชคดีและมีสติในการลงทุน
.
วรวรรณ ธาราภูมิ
ประธานกรรมการบริหาร บลจ.บัวหลวง
19 กรกฎาคม 2560