แมงเม่าเล่าเรื่อง : ลองซื้อขายกองทุนบัวหลวงทศพล BTP

735193_412061258868274_2050973018_nผมเชื่อว่าทุนที่สำคัญที่สุดของการลงทุน คือความรู้ ซึ่งก็เกิดจากการสอบถาม อ่าน และเรียนรู้ มันสำคัญก็ตรงเรียนรู้ที่แหละครับ เพราะเรื่องของเงินๆทองๆ ถ้าพลาดแล้วก็จะต้องมาเสียใจในภายหลัง ซึ่งหลักของการลงทุนก็บอกว่า อย่ากู้มาลงทุน และเงินออมที่เอามาลงทุน ต้องเป็นเงินเย็นที่ยังไม่รีบใช้งาน

ก่อนหน้านี้ มีเจ้าหน้าที่ของธนาคารแห่งหนึ่งบอกว่า เธอลงทุนผ่านกองทุนรวมเพียงอย่างเดียว เพราะเวลาขายก็ได้เต็มๆ ต่างจากเพื่อนผู้ชายที่เข้าไปซื้อขายหุ้นด้วยตนเอง พอหักค่านายหน้าแล้ว เหลือกำไรไม่มาก

โชคดีที่ผมไม่ได้เชื่อในคำพูดของเธอ จึงได้มาศึกษาก่อน เหมือนสวรรค์โปรดที่มีเว็บไซต์จำลองการลงทุนในกองทุนเสมือนจริงมีให้ทดลองซื้อขายทดลองดูแนวโน้มก่อน นั่นก็คือ wealthmagik.com ซึ่งนอกจากจะใช้ทดลองซื้อขายแล้ว ยังสามารถใช้บันทึกการซื้อขายจริงๆได้ (ขอขอบพระคุณเข้าของเว็บ และผู้สนับสนุนเว็บมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ) ใครไม่ทดลองใช้ ระวังตกกระแสนะครับ

จากการทดลองและใช้งานจริงในช่วงแรก ก็พบว่า มูลค่าของเงินตอนที่ยังไม่ขายกองทุนรวม กับเมื่อขายกองทุนรวมแล้วมันไม่เท่ากัน !!!

เงินหายไปไหน….

ด้วยความเป็นครูวิทยาศาสตร์บ้านนอก เลยต้องทำการสืบค้น ทดลอง แล้วก็พบว่า แต่ละกองทุนมันมี “ค่าใช้จ่าย” อยู่ครับ

จึงได้เหตุผลแล้วว่า ทำไมเวลาสั่งขายกองทุนรวมแล้วจึงได้รับเงินไม่เท่ากับมูลค่าของการลงทุนที่แสดงในเว็บ

เมื่อรู้แล้ว ก็ถึงเวลาลองสนามจริง หันซ้ายหันขวาเอาไงดีหละ เลยไปนำเงินออกจากออมทรัพย์ครูมาจำนวน 15000 บาท ไม่ได้กลัวว่าลองแล้วจะเจ็บตัวมากนะครับ จริงๆแล้ว มันมีแค่นี้ 555+

จากนั้น ก็เล็งๆๆๆ เล็งจังหวะเข้าไปซื้อ ตัวที่เห็นแล้วอยากจะทดลองมากก็คือ กองทุนรวมบัวหลวงทศพล BTP เพราะขึ้นแท่นเขียวมานาน (เพราะมีแม่ทัพหญิงอย่างพี่ตู่ คนสวย แน่ๆ) รอจังหวะหลายวัน ไม่ได้ซักที นั่นเพราะอาจกลัวว่าจะซื้อตอนยอดดอยเนื่องจากช่วงนี้สถานการณ์ทางการเมือง และ QE ของสหรัส ชี้นำตลาดเสียเหลือเกิน จนกระทั้งตัดสินใจว่า เอาวะ ลองดูก่อนที่หุ้นทั้งหลายจะขึ้น XD แหละ จึงไปซื้อที่ธนาคารวันที่ 6 มีนาคม 2557 ช่วงเย็นๆ

เจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงเทพสาวสวยบอกว่า “วันนี้ยังไม่ได้หน่วยนะคะ เพราะเลยเวลาแล้ว” ผมก็บอกว่าทราบครับ แล้วหาเรื่องคุยไปนิดนึง

จากนั้น ในวันที่ 7 มีนาคม 2557 เงิน 15000 บาท ที่นำมาทดลอง ก็สามารถซื้อหน่วยของบัวหลวงทศพลได้ 458.8657 หน่วย ซึ่งราคาต่อหน่วย ณ วันที่ลงทุน (NAV) คือ 32.6893 โดยที่ราคารับซื้อคืนอยู่ที่ 32.3623 ตรงนี้แหละ ที่ทำให้เวลาขายแล้วไม่ได้ครบตามที่แสดงผลมูลค่าของการลงทุน

อดทนรออยู่ไม่นาน สังเกตทุกวัน โอ…. กำไรขึ้นไปสามร้อยกว่าบ้าง สี่ร้อยกว่าบ้าง ห้าร้อยกว่าบ้าง ซึ่งก็เทียบกับเงินฝากออกทรัพย์รายปีไม่ได้เลย เวลาเพียงไม่กี่วัน สามารถทำให้เงินจำนวนเท่ากัน สร้างผลตอบแทนต่างกัน ซึ่งสิ่งที่สร้างความต่างก็คือ … ความเสี่ยง

คราวนี้ เวลาหน่วยลงทุนราคาลงมา เหลือ 90 กว่าบาท คราวนี้ครูบ้านนอกก็ใจแป้ว เพราะหากขายไป ต้องขาดทุนแน่นอน เนื่องจากลองคำนวณแล้ว กำไรจะอยู่ที่ 151 บาท ขึ้นไป นั้นหมายความว่า ถ้าไม่เอาขาดทุน ต้องขายในวันที่มากกว่า 151 บาท

เครียดมาหลายวัน!!! กลัวเงินส่วนนี้ขาดทุน เลยจ้องขาย และแล้ว ก็ได้ ฤกษ์ขายทำกำไร ในวันที่มูลค่าเพิ่มเกือบสี่ร้อยบาท จึงบอกกับตัวเองว่า การทดลองควรสิ้นสุดได้แล้ว เพราะลองไปก็เครียด เลยขายบัวหลวงทศพลวันที่ 31 มีนาคม 2557 ในวันที่มี NAV 33.0279 เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้ว ก็ได้กำไรเอาไปซื้อลูกชิ้น 155.37 บาท (ตอนดูก่อนขายบอกว่ามูลค่าสามร้อยกว่าบาทนะนั้น 555+)

เอาเป็นว่า การทดลองเพื่อเป็นบทเรียนในครั้งนี้ ยืนยันได้ 3 เรื่อง คือ

1. ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น (อาจ)ทำให้ผลตอบแทนมากขึ้น ในระยะเวลาที่สั้นกว่า เมื่อเทียบกับการลงทุนที่เสี่ยงน้อยกว่า
2. หากจะขายกองทุนรวม ต้องคำนวณราคา NAV ที่รับซื้อคืน เพราะราคานั้น คือเงินที่เราจะได้คืนจริงๆ
3. อย่าเอาเงินที่ยอมรับความเสี่ยงไม่ได้มาลงทุน เพราะมันจะทำให้คุณเครียดมากๆๆๆๆๆ และอย่ากู้มาลงทุน เพราะกำไรทีได้กับดอกเบี้ยที่จ่าย มันต่างกันมาก

บัวหลวงทศพล เป็นกองทุนเปิดที่ไม่จ่ายเงินปันผล ระดับความเสี่ยงอยู่ที่ 6 เหมาะสำหรับลงทุนระยะกลาง ถึงยาว เพราะหากลงทุนนานกว่านี้ ผลตอบแทนอาจจะได้ถึง 25 – 30 % แต่อย่าลืมว่า ผลตอบแทนในอดีตไม่ได้เป็นเครื่องชี้วัดสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตครับ อันนี้ครูแชมป์ขอลองแบบสั้นๆแค่ไม่กี่วัน ก็ได้ผลตอบแทน 1% กว่าๆ (ถ้าฝากออมทรัพย์จะได้ 0.50% ต่อปี) นะครับ เอาเป็นว่าเวลา 25 วัน ถ้ารับความเสี่ยงได้ก็อาจจะทำให้เงินงอกเงย 155.37 บ. ในขณะที่ฝากออมทรัพย์ได้ 5.14 บ. ครับ อิอิ

นี่แหละครับ การลงทุนของครูบ้านนอกคนนี้ ที่จะลองทำให้เงินที่มี(แสนจะน้อย) ให้เพิ่มออกมาเป็นเงินงอกเงยครับ

พิริยะ  ตระกูลสว่าง

(ใครมีข้อเขียน ประสบการณ์อะไรมาแบ่งปันกัน ส่งมาเล่าได้นะครับ)

……………………………………………..

(แก้ไขเพิ่มเติมวันที่ 4/4/2014)

เนื่องจากคุณพี่ตู่ วรวรรณ ธาราภูมิ แม่ทัพใหญ่ของ บลจ.บัวหลวง ได้เมตตาเข้ามาอ่าน และส่งข้อคิดเห็นเกี่ยวกับบทความนี้มาดังนี้ครับ

ขอบคุณมากค่ะคุณครู การลงทุนในกองทุนหุ้นของค่ายบัวหลวงนั้นไม่เหมาะกับผู้รับความเสี่ยงจากความผันผวนระยะสั้นไม่ได้ เพราะขึ้นชื่อว่าหุ้นแล้ว ในช่วงสั้นผันผวนได้มาก โดยเฉพาะในยามเศรษฐกิจผันผวน หรือมีปัจจัยกระทบทั้งภายในและภายนอก

ขอให้ประสบผลสำเร็จในการลงทุนค่ะ การทดลองที่ว่านี้ ไม่ใช่ไม่มีประโยชน์ ทุกคนสามารถวัดความอึดของตนเองได้ด้วยเงินน้อยๆ อย่างคุณครูนี่ละค่ะ

ได้อ่านข้อความแล้วชื่นใจ ที่ไอดอลคนสวยของเราก็แสดงความเห็นด้วย ต้องขอบพระคุณอย่างสูงนะครับคุณพี่ตู่ คนสวย

Comments

comments